เสียชีวิต กลางสวนทุเรียน เมื่อวันที่ 30 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2564   เจ้าหน้า ตำรวจจังหวัด ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่ามีชายวัย 26 ปีเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณกลางสวนในกระต๊อบของผู้เสียชีวิตเอง  ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุก็เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุทันทีซึ่งจุดเกิดเหตุนั้นเป็นสวนทุเรียนอยู่ที่ตำบลพะโต๊ะ  โดยสภาพศพของชายที่เสียชีวิตนั้นนอนตัวแข็งอยู่บนที่นอนในกระต๊อบที่สร้างขึ้นมากลางสวน

           ซึ่งสภาพมีเลือดไหลเต็มไปหมดโดยทางคณะแพทย์ได้ตรวจสอบพบว่ามีเลือดไหลออกจากปากและจมูกแต่ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายหรือมีการต่อสู้โดยแพทย์สันนิษฐานว่าน่าจะเสียชีวิตจากการป่วยอย่างไรก็ตามทางญาติของผู้เสียชีวิตได้มีการส่งมอบให้แก่ทางโรงพยาบาลพะโต๊ะไปทำการชันสูตรศพอีกครั้งหนึ่งเนื่องจากมีความสงสัยเกี่ยวกับการตายของผู้เสียชีวิต

         เบื้องต้นทางด้านญาติของผู้เสียชีวิตให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าผู้เสียชีวิตนั้นมีอาการไข้มาประมาณ 2-3 วันและยังบ่นให้กับคนอื่นฟังว่ามีอาการปวดตามร่างกายซึ่งทางด้านผู้เสียชีวิตเองก็ได้ซื้อยามารับประทานแต่ในช่วงที่มีการเสียชีวิตนั้นไม่มีใครอยู่กับผู้เสียชีวิตเลยจึงไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตนั้นป่วยจากอาการไข้จริงหรือไม่เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้มีการนำศพไปทำการตรวจหาเชื้อไวรัส covid เพื่อทำการตรวจว่าติดเชื้อไวรัส covid จนถึงแก่ความตายหรือไม่

        ปรากฏไม่พบเชื้อไวรัสโควิด-19  แต่ทางเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลสันนิษฐานว่าอาการป่วยของผู้เสียชีวิตนั้นน่าจะเกิดมาจากการเป็นโรคฉี่หนูซึ่งในขณะนี้ในตำบลพะโต๊ะนั้นมีคนเป็นโรคฉี่หนูเป็นจำนวนมากซึ่งเป็นในช่วงของการระบาดเพราะเข้าสู่หน้าฝนนั่นเอง

  โดยจะเห็นได้ว่าที่โรงพยาบาลพะโต๊ะในตอนนี้นั้นมีผู้ป่วยที่มารักษาตัวที่โรงพยาบาลเยอะมากและจากการตรวจสอบก็พบว่าผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาอาการป่วยในช่วงเวลานี้นั้นต่างก็ติดโรคฉี่หนูด้วยกันทั้งนั้นซึ่งผู้เสียชีวิตเองน่าจะเป็นหนึ่งในผู้ที่เป็นโรคฉี่หนูแต่ไม่ได้มีการรักษาอย่างทันท่วงทีจึงทำให้เสียชีวิตอยู่คนเดียวกลางสวนทุเรียนนั่นเอง 

   อย่างไรก็ตามสาเหตุที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตต้องการให้ทางโรงพยาบาลแจ้งผลการเสียชีวิตยืนยันออกมาเป็นอักษรเนื่องจากสาเหตุว่าชาวบ้านในหมู่บ้านต่างพากันหวาดกลัวว่าผู้เสียชีวิตนั้นจะเป็นโรคร้ายแรงและโรคติดต่อซึ่งอาจจะแพร่ระบาดให้กับคนในหมู่บ้านได้ดังนั้นเพื่อความมั่นใจให้กับคนในหมู่บ้านทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตจึงต้องการจะส่งศพและนำหลักฐานไปยืนยันเพื่อความสบายใจของคนในหมู่บ้านนั้นเอง

   อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้ที่จังหวัดชุมพรและอยู่ในอำเภอพะโต๊ะนั้นยังไม่มีชาวบ้านคนไหนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้แต่คนเดียว

สนับสนุนเรื่องราวโดย.   ufabetฝ่ายบริการ

แม่ค้าชาวพิจิตรจวกรัฐบาลประยุทธ์  เมื่อวันที่ 20 เดือนกรกฎาคมปีพศ 2564 มีการรายงานข่าวออกมาจากนักข่าวในจังหวัดพิจิตรระบุว่าในขณะนี้การระบาดของไวรัสโคโรนานั้นทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการระบาดของไวรัสโคโรน่าครั้งที่ 3 เป็นการระบาดอย่างรุนแรงและครอบคลุมหลายพื้นที่ซึ่งทุกครั้งที่มีการระบาดของไวรัสโคโรนาประชาชนได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลมีแนวความคิดในการที่จะหยุดการระบาดด้วยการประกาศล็อกดาวน์

         อย่างไรก็ตามล่าสุดที่รัฐบาลมีการประกาศล็อกดาวน์ ในพื้นที่เสี่ยงประมาณ 13 จังหวัดนั้น หลังจากมีการประกาศออกมาจากทางรัฐบาลก็ทำให้คนที่อยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑลซึ่งเป็นคนต่างจังหวัดนั้นเดินทางกลับต่างจังหวัดบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองกันเป็นจำนวนมาก

เนื่องว่าการล็อกดาวนั้นใช้ระยะเวลาในการดำเนินการนานเกือบเดือน

ทำให้คนที่เป็นคนต่างจังหวัดแล้วมาทำงานอยู่ในกรุงเทพฯจำเป็นที่จะต้องกลับบ้านของตนเองเพราะไม่ได้มีการทำงานและเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย

         สิ่งที่ตามมานั่นก็คือในหลายจังหวัดนั้นมีประชาชนเดินทางกลับเป็นจำนวนมากทำให้ชาวบ้านต่างก็พากันหวาดกลัวว่ากลุ่มคนที่เดินทางออกจากกรุงเทพฯกับต่างจังหวัดนั้นจะนำเชื้อไวรัสไปแพร่กระจายให้กับคนในพื้นที่ทำให้ในขณะนี้หลายคนนั้นพยายามอยู่แต่ในบ้านและไม่ยอมออกนอกบ้านไม่มีการใช้จ่ายเงิน  สิ่งที่เป็นปัญหาตามมาต่อจากการล็อคดาวของรัฐบาลนั้นก็คือเศรษฐกิจย่ำแย่มากยิ่งขึ้นเพราะประชาชนไม่ออกมาซื้อของ  

         ส่งผลให้ทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้านั้นไม่สามารถขายของได้เปิดร้านค้ามาก็มีแต่ความเงียบเหงาเพราะทุกคนนั้นกลัวว่าจะออกมาแล้วเจอกับการติดเชื้อไวรัสโควิดทำให้ในขณะนี้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดต่างก็พากันหวาดกลัวว่าตนเองนั้นจะขาดทุนและเจ้งได้ เพราะลงทุนมาแล้วแต่ไม่สามารถขายของได้ทั้งหมด

       อย่างไรก็ตามเมื่อมีนักข่าวไปพูดคุยกับทางบรรดาแม่ค้าที่ขายของอยู่ใกล้กับตลาดเทศบาล 2 เมืองพิจิตรปรากฏว่ามีแม่ค้าหลายคนให้สัมภาษณ์กับนักข่าวทั้งน้ำตาเลยว่าในขณะนี้พวกเขาได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากนอกจากจะต้องหวาดกลัวเรื่องของการติดเชื้อไวรัส covid แล้ว

การค้าการขายของพวกเขานั้นก็ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง

แม่ค้าชาวพิจิตรจวกรัฐบาลประยุทธ์ ขายของแทบไม่ได้เลยกำไรจากเดิมที่ได้วันละประมาณ 500 ถึง 1,000 บาทก็ลดลงมาเหลือแค่วันละประมาณ 200-300 บาทหรือบางวันแทบจะไม่สามารถขายได้กำไรเลย  

        ในตอนนี้แทบจะไม่มีคนออกมาซื้อของกันแล้วอย่างไรก็ตามสำหรับที่รัฐบาลมีการประกาศออกมาช่วยเหลือประชาชนตามโครงการต่างๆเช่นโครงการคนละครึ่งนั้น ชาวบ้านที่ขายของยืนยันว่าคนในจังหวัดพิจิตรนั้นไม่มีใครเข้าร่วมโครงการเพราะหลังจากที่เห็นเรื่องของภาษีที่มีการเรียกเก็บกับแม่ค้าแล้วพวกเขายอมรับว่าไม่สามารถที่จะสู้ภาษีที่รัฐบาลมีการเรียกเก็บได้

         ดังนั้นในขณะนี้ประชาชนหลายคนนั้นกำลังจะอดตายกันแล้ว โดยในตอนนี้หลายคนนั้นต้องไปกู้เงินนอกระบบมาใช้งานกันแล้วซึ่งแม่ค้าในจังหวัดพิจิตรอยากจะให้ประชาชนมองเห็นถึงความสำคัญด้านนี้โดยมองว่าถ้าหากรัฐบาลไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้ก็อยากจะให้ลาออกไปให้คนอื่นเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาแทน 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.   ufabetฝ่ายบริการ

ซึ่งการนำรถที่นำเอาเข้ามาในประเทศไทยเพื่อทำการประกอบอย่างเดียว คดีของโตโยต้าที่เกิดขึ้น โดยที่ไม่ได้มีการผลิตภายในประเทศไทยโดยปกติแล้วตามข้อตกลงJTEPA จะเสียภาษีแค่ 30% โดยการนำเข้าครั้งนี้มันเป็นการนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์แบบสมบูรณ์จำนวน 160 คัน 

ดังนั้นพอได้มีหน่วยงานภาษีเข้ามาตรวจสอบก็พบว่ามันเป็นการนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ในลักษณะที่มันเป็นรถทั้งคันดังนั้นเขาจึงเลยตีความไปว่ามันเป็นการนำเอารถเข้ามาทั้งคันหากเราเอารถนำเข้ามามันก็จะเสียภาษีสูงมากอาจจะเสียภาษีนำเข้าประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ทางนี้ยังไม่ใช่ 80 เปอร์เซ็นต์ของรถแต่มันยังเป็นเปอร์เซ็นต์ของราคาสินค้าค่าประกันและบวกค่าขนส่งภาษีจะบวกเพิ่มขึ้นไปเยอะมาก 

โดยที่เขาคิดภาษีการนำเข้ารถยนต์มาในประเทศไทยมันแพงก็เพื่อจะส่งเสริมให้ต่างชาติเข้ามาประกอบรถในประเทศไทยเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเป็นการจ้างงานจนทำให้ข้อพิพาทมันเกิดขึ้นด้วยว่าทาง Toyota ตีความว่ามันเป็นการนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ แต่ทางกรมศุลเขาตีความว่ามันเป็นรถยนต์ทั้งคัน 

สำนักงานกรมศุลเขาได้พิจารณาว่าการนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ของโตโยต้าตั้งแต่ปี 53 ถึงปี 55

รวมแล้วมากกว่า 245 ครั้งคิดเป็นจำนวนรถยนต์มากกว่า 20,000 ที่ไม่ถูกกฎหมายตามกรมศุลแต่ทางโตโยต้าเขาได้อ้างว่ามันได้ถูกตามข้อตกลง JTEPA 

ซึ่งก็ได้ทำการขออนุญาตกรมศุลแล้วโดยจะเสียภาษีในราคาแค่ 30%ของราคาสินค้าเพราะต่างคนต่างก็ไม่ยอมทาง Toyota ก็นำเอาเรื่องนี้ไปฟ้องศาลและในศาลชั้นต้นToyota ก็ชนะคดีก็คือไม่ต้องเสียภาษีเพิ่มแต่กรมศุลก็เลยไม่ยอมถ้าฟ้องมาก็จะฟ้องกลับกรมศุลก็เลยยื่นอุทธรณ์และชนะคดีนี้ในศาลอุทร 

คดีของโตโยต้าที่เกิดขึ้น จึงทำให้ตอนนี้ Toyota จะต้องจ่ายภาษีเพิ่มเป็นจำนวนเงิน 11,000ล้านบาท แล้วในปัจจุบันคดีที่ว่าก็อยากลองอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาลฎีกาอยู่ในเรื่องของเสรีการค้ากับการเลี่ยงภาษีก่อนหน้านี้ในปี 51 ก็ได้มีเคสแบบนี้เกิดขึ้นมาอีกเหมือนกันกับ Toyota แบบเดียวกัน 

โดย Toyotaโดนฟ้องและแพ้คดีจะต้องจ่ายภาษี 800 ล้านบาท

จากการนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผิดที่ผิดข้อตกลงทางด้านเสรีการค้าไทยอินเดียโดยที่จริงแล้วถ้าชิ้นส่วนนี้มันผลิตในอินเดียแล้วและนำเข้ามายังประเทศไทยมันก็จะเสียภาษีต่ำหรือว่าไม่ต้องเสียภาษีเลยแต่ Toyota บอกว่าชิ้นส่วนนี้ได้ผลิตที่ประเทศอินเดียทั้งที่จริงๆแล้วมันไม่ได้ผลิตที่อินเดียแต่มันผลิตมาจากที่สิงคโปร์ทางนี้มันดูเหมือนเป็นการจงใจในการหลีกเลี่ยงภาษีจากนั้นก็เลยโดนค่าปรับไปเป็นเงิน800ล้านบาท

สนับสนุนโดย.  ufabetฝ่ายบริการ