คดีสะเทือนขวัญในประเทศปากีสถานเมื่อลูกสาวท่านทูตถูกฆ่าตัดศีรษะจากทายาทตระกูลใหญ่

คดีสะเทือนขวัญในประเทศปากีสถาน  เมื่อวันที่ 20 เดือนกรกฎาคมปีพศ 2564 มีการรายงานข่าวออกมาจากประเทศปากีสถานเกี่ยวกับการที่ลูกสาวของนักการทูตปากีสถานและยังเคยเป็นอดีตเอกอัครราชทูตปากีสถานไปประจำการอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้และไอร์แลนด์ถูกฆาตกรรมโดยสภาพศพนั้นถูกตัดศีรษะ  และเหตุฆาตกรรมในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้ทันทีในจุดเกิดเหตุโดยผู้กระทำความผิดนั้นเป็นลูกชายของนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นผู้ทรงอิทธิพลในประเทศปากีสถาน

      สำหรับสถานที่เกิดเหตุนั้นเกิดภายในบ้านพักย่านล็อค 7 ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ก่อเหตุเองโดยบ้านพักย่านดังกล่าวนั้นเป็นสถานที่ที่สำหรับคนรวยอาศัยอยู่ซึ่งอยู่ในกรุงอิสลามาบัด  คดีสะเทือนขวัญในประเทศปากีสถาน

สำหรับผู้ก่อเหตุฆ่าลูกสาวท่านทูตในครั้งนี้คือนายซาฮี  ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งข้อหาในครั้งแรกเป็นทำร้ายร่างกายหลังจากนั้นก็ได้มีการเปลี่ยนข้อหาใหม่มาเป็นฆ่าโดยไตร่ตรอง   อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ฆาตกรรมในครั้งนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าสาเหตุของการเกิดฆาตกรรมในการนี้เกิดมาจากอะไรและอะไรเป็นแรงจูงใจให้นายซาฮีก่อเหตุฆ่าตัดคอในครั้งนี้นั้นเอง

       นอกจากนายซาฮี  จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแล้วทางด้านพ่อแม่ของนายซาฮีเองก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาเช่นเดียวกันโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตั้งข้อหาพ่อแม่ของนายซาฮีว่าช่วยกันปกปิดหลักฐานการกระทำความผิดของลูกชายตนเองซึ่งในขณะนี้พ่อแม่ของนายซาฮีได้มีการยื่นเรื่องประกันตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้วในขณะเดียวกันพวกเขายืนยันว่าเขาไม่ได้มีการเข้าข้างลูกชายของตนเองและเขาประณามการกระทำความผิดของลูกชายในครั้งนี้ของเขาด้วย 

         จากเหตุฆาตกรรมที่เกิดขึ้นนั้นกลายเป็นฉนวนที่ทำให้ผู้คนในประเทศปากีสถานได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวของท่านทูตโดยหลายฝ่ายมองว่ากฎหมายไว้ของประเทศปากีสถานเกี่ยวกับเรื่องของการใช้ความรุนแรงภายในครอบครัวนั้นค่อนข้างอ่อนทำให้ปัจจุบันนี้ผู้หญิงในปากีสถานส่วนใหญ่มักจะถูกผู้ชายในครอบครัวนั้นทำร้ายร่างกายโดยมีผลสำรวจออกมาว่าโดยเฉลี่ยแล้วผู้หญิงอายุตั้งแต่ 15 ปีถึง 49 ปีนั้นจะถูกผู้ชายในครอบครัวของตนเองทำร้ายร่างกาย 

        ที่สำคัญเมื่อพวกเขาเหล่านั้นถูกทำร้ายร่างกายพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะแจ้งความดำเนินคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้ผู้ชายในครอบครัวถือตนเป็นใหญ่และกลายมาเป็นวัฒนธรรมที่ผู้ชายในประเทศจากปากีสถานนั้นมักจะเห็นตัวเองเป็นใหญ่และกดขี่ข่มเหงฝ่ายหญิง  กลุ่มที่ออกมาเรียกร้องนั้นต้องการที่จะให้รัฐบาลได้ออกมาแก้กฎหมายใหม่เพื่อให้คุ้มครองผู้หญิงและเด็ก

         อย่างไรก็ตามเราคงต้องรอดูว่าท้ายที่สุดแล้วประธานาธิบดีจะออกกฎหมายคุ้มครองสิทธิเด็กและสตรีหรือไม่เพราะโดยปกติแล้วในศาสนาอิสลามนั้นและมีกฎหมายคุ้มครองผู้ชายว่าสามารถที่จะเฆี่ยนตีภรรยาได้ถ้าไม่รุนแรงมากนัก     

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    แทงบอลออนไลน์ ภาษาไทย